หมวดหมู่ : ข่าวสารทั่วไป
หัวข้อ : การดูแลรักษาสุขภาพและช่องปากในหญิงมีครรภ์
โดย : admin
อ่าน : 2563
พุธ ที่ 8 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2558
พิมพ์ 

การดูแลรักษาสุขภาพและช่องปากในหญิงมีครรภ์
มีหลักฐานหลายประการที่บ่งขี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างโรคเหงือกและการคลอดก่อนกำหนด และทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตราฐาน หญิงตั้งครรภ์ที่มีปัญหาโรคเหงือกมีโอกาสสูงที่จะคลอดก่อนกำหนด หรือให้กำเนิดทารกที่ตัวเล็กกว่าปกติ

อย่างไรก็ตามงานวิจัยเหล่านี้ยังต้องการการศึกษาเพื่อยืนยันว่าโรคเหงือกส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ แต่งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าโรคเหงือกจะเป็นตัวกระตุ้นให้ระดับของเหลวทางกายภาพเพิ่มขึ้นซึ่งมันจะไปเร่งให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ข้อมูลยังบ่งบอกอีกว่าหากโรคเหงือกทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ โอกาสที่จะคลอดก่อนกำหนดยิ่งมีสูงมากขึ้น

จะทำอย่างไรเพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ระหว่างการตั้งครรภ์?
คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับหญิงมีครรภ์ก็คือ ควรหมั่นไปตรวจเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำ และรับการรักษาปัญหาในช่องปากที่มีให้หายขาดก่อนที่จะตั้งครรภ์

ในระหว่างการตั้งครรภ์ ฟันและเหงือกของคุณต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ การทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และการหมั่นตรวจเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำจะช่วยลดการเกิดปัญหาทางทันตกรรมระหว่างการตั้งครรภ์ได้

ระหวางการตั้งครรภ์สามารถเกิดปัญหาทางช่องปากใดได้บ้าง?
จากการศึกษาพบว่าหญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากคราบพลัคที่ก่อตัวที่ฟัน และสร้างความระคายเคืองให้แก่เหงือก อาการที่บ่งบอกของโรคนี้คือ อาการบวมแดง และเลือดออกบริเวณเหงือก

โรคเหงืออักเสบในหญิงตั้งครรภ์เกิดได้บ่อยเนื่องจากการเพิ่มของระดับฮอร์โมนที่ทำให้เหงือกเกิดอาการระคายเคืองต่อคราบพลัคที่รุนแรงกว่าปกติ
อย่างไรก็ตามสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคเหงือกอักเสบก็คือคราบพลัค ไม่ใช่ปริมาณของฮอร์โมนในร่างกาย

การหมั่นดูแลรักษาฟันของคุณให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณขอบเหงือก จะช่วยได้อย่างมากในการลด หรือแม้แต่ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือกอักเสบระหว่างการตั้งครรภ์ นอกจากนั้นการทานอาหารที่ทดแทนของหวาน อย่างเช่น เนย ผักและผลไม้สด จะเป็นผลดีต่อสุขภาพฟันของคุณ

หากไปพบทันตแพทย์ระหว่างการตั้งครรภ์ ทันตแพทย์จะทำการดูแลอย่างไรบ้าง?
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ ในการนัดพบทันตแพทย์ คุณควรแจ้งให้ทันตแพทย์รู้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่ คุณควรจะไปพบทันตแพทย์ในช่วงที่อายุครรภ์อยู่ในช่วง 4-6 เดือน เนื่องจากในช่วง 3 เดือนแรก เป็นช่วงเวลาสำคัญของทารกในครรภ์ที่จะทำการพัฒนาส่วนต่างๆของร่างกาย ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ความเครียดที่เกิดจากการเข้าพบทันตแพทย์สามารถที่จะเพิ่มโอกาสในการเกิดความยุ่งยากต่อทารกในครรภ์ได้

โดยปกติแล้ว การเอ็กซ์เรย์ การใช้ยาชาในการทำฟัน การทานยาแก้ปวด หรือ การใช้ยาปฏิชีวณะ โดยเฉพาะตัวยาในกลุ่มเททร้าไซคลินเป็นสิ่งที่แพทย์ไม่ควรทำในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ นอกจากว่าจะเป็นภาวะจำเป็นจริงๆ ในระหว่าง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ การต้องไปนั่งรอนานๆในคลินิกทันตกรรมถือเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกสบายนักสำหรับหญิงมีครรภ์ นอกจากนั้นยังมีหลักฐานยืนยันว่าหญิงตั้งครรภ์มักจะหงุดหงิดง่าย ดังนั้นทันตแพทย์ควรเตรียมพร้อมรับมือต่ออารมณ์นี้

ถ้าหากคุณจำเป็นต้องมีการนัดพบทันตแพทย์อย่างเร่งด่วน คุณควรแจ้งเรื่องที่คุณตั้งครรภ์กับทางคลินิกเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่คุณจะไปพบทันตแพทย์ คุณควรบอกถึงเรื่องความเครียด เรื่องประสบการณ์การแท้งบุตร หรือการทานยาต่างๆ เพราะข้อมูลเหล่านี้จะมีผลต่อการการตัดสินใจของทันตแพทย์ในการทำการรักษาคุณ ทันตแพทย์อาจจำเป็นต้องติดต่อกับแพทย์ประจำตัวของคุณก่อนที่จะลงมือทำการรักษา

หากคุณมีความสงสัยหรือความกังวลใด คุณควรปรึกษาทั้งทันตแพทย์และแพทย์ประจำตัวของคุณ เพื่อช่วยเหลือคุณ หากทันตแพทย์มีการสั่งยาไปให้ทานในการรักษา ไม่ควรทานยาเกินปริมาณที่สั่งจ่าย ถึงแม้ว่ายาตัวนั้นจะเป็นเพียงแค่ยาแอสไพรินก็ตาม